การตั้งชื่อมงคล มีหลักการและวิธีการที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี และศาสตร์ความรู้ที่ใช้อ้างอิง โดยทั่วไปแล้ว หลักการตั้งชื่อมงคล มักพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้
เลือกชื่อที่มีความหมายดี มงคล สื่อถึงคุณสมบัติ ความปรารถนา หรือสิ่งอำนวยพร หากชื่อนั้นอ่านยาก สะกดยาก ย่อมส่งผลทางด้านจิตใจของผู้ใช้ รวมถึงส่งผลต่อการใช้ในการติดต่อประสานงานในชีวิตประจำวันด้วย
พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างตัวอักษรในชื่อ เชื่อกันว่าการผูกอักษรที่ดี จะส่งผลดีต่อดวงชะตา ซึ่งเป็นหลักการของศาสตร์พลังแฝงชื่อที่ค้นพบ โดย อ.ชินวัจน์
นำตัวอักษรในชื่อมาคำนวณหาเลขมงคล เชื่อกันว่าเลขมงคล จะส่งผลดีต่อชีวิต การคำนวณทางเลขศาสตร์เป็นการประยุกต์ระหว่างโหราศาสตร์ไทยและหลักเลขศาสตร์สากลอย่างลงตัว แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการอ่านความหมายทางเลขศาสตร์หากไม่เข้าใจถ่องแท้จะส่งผลให้การตั้งชื่อไม่ดีได้ดังที่ควรจะเป็น
ตั้งชื่อตามหลักวันเกิด เชื่อกันว่าชื่อที่เหมาะสมกับวันเกิด จะส่งผลดีต่อดวงชะตา วิธีการคำนวณมีหลายแบบแต่ที่นิยมเป็นที่แพร่หลายคือการผูกดวงชะตาโดยโหราศาสตร์ไทย บางท่านคิดว่าให้ตั้งเหมาะกับวันที่เกิดก็เพียงพอ แต่ในความเป็นจริง ควรเหมาะสมกับเดือนเกิด และปีเกิดด้วย
เป็นการคำนวณพลังของตัวอักษรแต่ละตัวที่เชื่อมโยงกันโดยตัวอักษรของพยัญชนะไทยทั้ง ๔๔ ตัว และสระทั้ง ๓๒ ตัว จะมีความหมายที่แตกต่างกันไปดังนี้
ธาตุไฟ ได้แก่ ก, ด, ท, ถ, ภ, ฤ, ศ, ส, ซ, อุ, อา, อำ
ธาตุดิน ได้แก่ ข, ช, บ, ป, ง, ฉ, ณ, ฌ, น, ม, ห, ฮ, ฎ, ฬ, อู, เอ, แอ
ธาตุลม ได้แก่ ฆ, ฑ, ฒ, ต, ฃ, ย, พ, ฟ, ผ, ฝ
ธาตุน้ำ ได้แก่ ค, ธ, ร, ญ, ษ, จ, ล, ว, อ, อิ
ใช้วิธีการ จับคู่ตัวอักษรที่ส่งเสริมกันในแต่ละธาตุ เช่น
คำว่า ชิน จะได้ ช+ิ+น เป็นการเสริมธาตุดิน(ช) ธาตุน้ำ(สระ อิ)และธาตุดิน(น) ซึ่งเป็นการรวมพลังของธาตุดินและธาตุน้ำ ก็จะทำให้พลังของคำว่า “ชิน” มีพลังเสริมดวงขึ้นมาทันที ทั้งนี้ต้องนำ พื้นดวงชะตา และนามสกุล มาวิเคราะห์ด้วย
จากการสังเกตุและเก็บสถิติของชื่อตั้งแต่ปี 2548 ทำให้ อ.ชินวัจน์ ได้เห็นว่าเลขศาสตร์ที่ใช้ในการตั้งชื่อนั้นถึงแม้ผลรวมทางเลขศาสตร์จะเหมือนกัน แต่ชีวิตของบุคคลนั้นแตกต่างกันไป บางคนชื่อผลรวมไม่ดีแต่ชีวิตก็ดีได้เช่นกันอย่างเช่นเจ้าสัว ธนินท์ เป็นต้น
จึงทำให้ค้นพบว่าตัวอักษรของชื่อทุกตัวอักษรนั้นจะส่งผลต่อดวงชะตา ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนตั้งชื่อผลรวมดีและชีวิตไม่ดี เพราะว่าพลังแฝงอักษรไม่ดีนั่นเองครับ
เป็นหลักการตั้งชื่อพื้นฐานที่คนไทยทั่วไปนิยมยึดถือปฏิบัติกันมากที่สุดมาตั้งแต่สมัยโบราณ ได้แก่ บริวาร อายุ เดช ศรี มูลละ อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี ซึ่งแต่ละภูมิก็จะมีกลุ่มตัวอักษรประจำทักษาแตกต่างกัน ซึ่งการนำตัวอักษรมาใช้ในการตั้งชื่อนั้น จะต้องดูวันเกิด เวลา ตามหลักโหราศาสตร์ไทยและหลีกเลี่ยงกลุ่มอักษรที่เป็นกาลกิณีประจำวันเกิด
เลขศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข การคำนวณตัวเลข ของดวงดาวต่างๆ ทางโหราศาสตร์ซึ่งตัวเลขแต่ละตัวมีความหมายในตัวเอง สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตของท่าน ทำให้เลขศาสตร์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก จนมีนักโหราศาสตร์หลาย ๆ ท่าน หันมาศึกษากันอย่างแพร่หลาย ทั้งในปัจจุบันได้มีการใช้เลขศาสตร์ในการตั้งชื่อ-นามสกุล และรวมไปถึงการทำนายเลขทะเบียนรถ หมายเลขโทรศัพท์ บ้านเลขที่
โดยเลขศาสตร์ สามารถแทนค่าพยัญชนะและสระต่าง ๆ ออกมาเป็นค่าตัวเลข ซึ่งการตั้งชื่อมงคล ควรมีการวิเคราะห์นามสกุลก่อนว่าได้เลขศาสตร์ใด เพราะนามสกุลมีผลต่อการตั้งชื่อจริง โดยนอกจากชื่อและนามสกุลที่ควรมีเลขศาสตร์ดีแล้ว ผลรวมเลขศาสตร์ของชื่อและนามสกุล ก็ควรมีผลรวมเลขศาสตร์ที่ดีด้วย ซึ่งจากที่กล่าวมาจะแบ่งการวิเคราะห์เป็น 3 ส่วน ดังนี้
การวิเคราะห์ตามหลักเลขศาสตร์ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ชื่อ, นามสกุล, และผลรวมของชื่อ-นามสกุล โดยในแต่ละส่วนจะมีอิทธิพลต่อเจ้าชะตา ดังนี้
รหัสชีวิต คือ เป็นการบอกลักษณะโดยรวมของบุคคลนั้นๆ ว่าชีวิตเป็นอย่างไรเช่นลักษณะนิสัยใจคอ รวมถึงการเงิน การงาน ความรักด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งศาสตร์สำคัญที่ใช้ในการตั้งชื่อ โดยใช้การถอดค่าตัวเลขตามกำลังของดวงดาว